Chat with us, powered by LiveChat

News Archive

Productivity Systems

Two Productivity systems ที่น่าสนใจและสามารถนำไปปรับใช้กับองค์กรของเราได้

1) Getting Things Done (GTD) by David Allen

เป็นการบริหารจัดการงานหรือโครงการให้สำเร็จในเวลาที่มีการกำหนดไว้ โดยจะแบ่งงานหรือโครงการเป็นส่วนๆและกำหนดสิ่งที่จะต้องทำขึ้นมา

ตัวอย่างเช่น

งานการติดตั้งอุปกรณ์ไวไฟให้กับลูกค้า เราต้องทำการกำหนดสิ่งที่จะต้องทำ วัน/เวลา และผู้รับผิดชอบของแต่ละส่วนงาน เช่น จัดเตรียมอุปกรณ์ เช็คความเรียบร้อยของอุปกรณ์ก่อนการติดตั้ง โทรนัดหมายลูกค้า ทำการติดตั้ง ทดสอบ เซ็นเอกสารติดตั้งเรียบร้อย แจ้งฝ่ายบัญชีและเซลล์เพื่อเก็บเงิน โดยแต่ละงานควรมี due date และคนรับผิดชอบ

จากตัวอย่าง มันก็จะเหมือนกับว่าเรากำลังทำ To do List ซึ่งจะทำให้เรารู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง มีกำหนดระยะเวลาเป็นอย่างไร แต่มันเป็น To do List สำหรับการทำงานร่วมกับผู้อื่น

ซึ่งเราจะพบว่าในการทำงานในองค์กร บางครั้งพนักงานใหม่จะไม่รู้ว่าจะต้องทำงานแบบไหน หรือโฟลว์งานเป็นอย่างไร พนักงานใหม่ก็มักจะสอบถามจากพนักงานเก่าที่อยู่มาก่อน ซึ่งบางครั้งก็ถูกบ้าง ไม่ถูกบ้าง

ดังนั้นถ้าบริษัทมีแพลตฟอร์มการทำงาน (workflow management) ที่ดี ก็จะทำให้การทำงานมีความสะดวกมากขึ้น มีแบบแผนที่ดี ชัดเจน และทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

แพลตฟอร์มการทำงานที่ดีตัวหนึ่งก็คือ Asana ซึ่งเป็น task/project management ที่อยู่บนคลาวด์ ถูกจัดให้เป็นซอฟต์แวร์ทางด้าน Work managment platform ซึงทาง Forrester จัดให้ Asana อยู่ในกลุ่มของ Leader

สามารถอ่านข้อมูลการประเมินผลได้ที่ Collaborative Work Management Tool For the Enterprise, Q4, 2018 by Forrester

ร่วมสัมผัสประสบการณ์การใช้งาน asana ฟรีได้โดยคลิกที่แบนเนอร์ด้านล่างนี้

badge_asana-together-color_H75

 

2) Kanban 

เป็นระบบการจัดตารางเวลาสำหรับการผลิตแบบลีนและการผลิตแบบทันเวลา

Taiichi Ohno วิศวกรอุตสาหกรรมของ Toyota พัฒนา kanban เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต

Kanban เป็นวิธีหนึ่งในการบรรลุ JIT System ระบบใช้ชื่อจากการ์ด (card) ที่ไว้ติดตามการผลิตภายในโรงงาน

เราสามารถนำ Kanban มาประยุกต์ใช้ในการทำงานขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่นการบริหารจัดการทีมขาย โดยเราสามารถแบ่งการทำงานออกมาเป็นขั้นตอนการขายเพื่อที่จะปิดดีลๆหนึ่ง

ตัวอย่างเช่น

แบ่งขั้นตอนการขายออกมาเป็น จัดเตรียมลีด ติดต่อลีด คัดกรองลีด เก็บข้อมูล นำเสนอราคา ต่อรอง ปิดดีล เป็นต้น โดยการ์ด (card) แต่ละการ์ดจะแทนขั้นตอนแต่ละขั้นตอน เมื่อทำเสร็จขั้นตอนที่หนึ่ง การ์ดก็จะถูกเลื่อนไปยังขั้นตอนต่อไป จนกระทั่งจบกระบวนการ

จะเห็นว่าเมื่อองค์กรมีพนักงานขายหลายคน แต่ละคนก็จะมีแบบแผนที่ดีสำหรับการทำงานขายเพื่อที่จะปิดการขาย โดยที่บริษัทก็จะสามารถรับรู้ได้ว่าทีมขายมีการทำงานเป็นอย่างไร

และถ้าบริษัทมีแพลตฟอร์มการทำงานที่ดีเพื่อช่วยให้ทีมขาย บันทึกข้อมูล ติดตามงานขาย แสดงผลการขาย มันก็ยิ่งจะทำให้การทำงานเป็นไปอย่างรวดเร็ว สะดวก มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

แพลตฟอร์มการทำงานที่ดีตัวหนึ่งสำหรับงานขายก็คือ Pipedrive

Pipedrive เป็น Sales CRM ที่อยู่บนคลาวด์ ถูกจัดให้เป็นซอฟต์แวร์ทางด้าน Sales Customer Relationships Management ที่ดีที่สุดตัวหนึ่ง

สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับการจัดอันดับได้ที่ https://www.g2.com/categories/crm

ร่วมเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใช้ Pipedrive เริ่มต้นจากการทดลองใช้ฟรี 30 วันโดยไม่มีข้อผูกมัดใดๆ

Free Trial 30 days copy

 

Comments are closed.

Affiliates

Partners

Archives