1. จำนวนผู้ใช้งานซีอาร์เอ็มซอฟต์แวร์ ซีอาร์เอ็มซอฟต์แวร์ไม่ใช่โซลูชั่นที่เป็นแบบ “One size fits all” ถ้าองค์กรของคุณมีผู้ใช้งานซีอาร์เอ็มเพียงแค่ 5 ยูสเซอร์ บริษัทก็ไม่มีความจำเป็นต้องเลือกใช้เอ็นเตอร์ไพรส์ซอฟต์แวร์

มันสำคัญมากที่บริษัทควรเลือกซีอาร์เอ็มซอฟต์แวร์ที่เหมาะกับจำนวนผู้ใช้งาน และสามารถวางแผนที่จะเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานได้ในอนาคต

2. ประเภทซอฟต์แวร์ที่ต้องการใช้งานที่เหมาะสมกับธุรกิจ

ซอฟต์แวร์ทางด้านการบริหารโครงการคงไม่เหมาะกับทีมขายที่จะใช้งานเมื่อเทียบกับซอฟต์แวร์ซีอาร์เอ็มที่ถูกพัฒนามาให้กับพนักงานขาย

ซอฟต์แวร์ซีอาร์เอ็มจะทำให้ทีมขายรับรู้ถึงเป้าหมาย ขั้นตอนการขาย ดีลแต่ละดีลพร้อมระบุว่าอยู่ในขั้นตอนไหนของการขาย วันที่ถูกกำหนดไว้สำหรับดีลที่จะต้องปิดการขาย

3. การปรับแต่งการใช้งานของซีอาร์เอ็มซอฟต์แวร์

ความสามารถที่จะปรับแต่งการใช้งานซีอาร์เอ็มทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกชอบและลดแรงเสียดท้านในการใช้งานซอฟต์แวร์ลง ดังนั้นมันจะสามารถเพิ่มการใช้งานและเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานได้ง่ายขึ้น

นอกจากนั้นเมื่อมีการเพิ่มธุรกิจใหม่ในบริษัท การปรับแต่งได้ง่ายก็จะช่วยให้ซีอาร์เอ็มซอฟต์แวร์สามารถตอบสนองต่อความต้องการขององค์กรได้เป็นอย่างดี

4. งบประมาณที่บริษัทมี

ซีอาร์เอ็มซอฟต์แวร์ที่ไม่คิดราคา (Free) ตลอดการใช้งานอาจจะไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจได้ครบถ้วน

มันยังมีโซลูชั่นที่ไม่แพงในตลาดที่สามารถตอบสนองความต้องการได้ดีเยี่ยมให้กับธุรกิจอย่างเช่น Pipedrive

โซลูชั่นที่แพงก็อาจจะไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดให้กับองค์กร

แต่ถ้าเราเจอโซลูชั่นที่ใช่ แต่อาจจะแพงกว่างบประมาณที่ตั้งไว้นิดหน่อย ก็อาจจะมองถึงประโยชน์ที่ได้รับทั้งวันนี้และอนาคตว่าคุ้มค่าไหม

5. บริการที่ได้รับทั้งก่อนการใช้งานและหลังใช้งานสำหรับซีอาร์เอ็มซอฟต์แวร์

ซอฟต์แวร์ที่ดีควรมีการให้บริการที่ดีทั้งก่อนและหลังใช้งาน ควรมีทีมที่สามารถแก้ไขปัญหาของซอฟต์แวร์ที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และวรมีช่องทางในการติดต่อที่สะดวกไม่ว่าจะเป็นทางโทรศัพท์หรือไลฟ์แชท เพราะบริษัทมีความต้องการใช้งานซอฟต์แวร์ตลอดเวลา ดังนั้นเราจึงไม่สามารถที่จะรอความช่วยเหลือได้นาน

สัมผัสประสบการณ์การใช้งาน Pipedrive โดยเริ่มต้นจากการทดลองใช้ฟรี 30 วันโดยไม่มีข้อผูกมัดใดๆ