Chat with us, powered by LiveChat

News Archive

Why selecting PIPEDRIVE?

จุดเด่นของ Pipedrive (Sales CRM) คือ ความง่าย (Simple) แต่ได้ผล (Effective)

เราได้รวบรวมจุดเด่นของ Pipedrive เป็นดังต่อไปนี้

1. ใช้งานง่าย ถ้าใช้งาน Excel เป็น ย่อมใช้งาน Pipedrive เป็นอย่างแน่นอน การใส่ข้อมูลก็จะเป็นแบบตรงไปตรงมา เข้าใจง่าย สามารถเรียนรู้ได้เอง (natural learning) ไม่มีความจำเป็นต้องมีคู่มือการใช้งาน (manual)

2. Pipedrive เป็น Sales CRM ที่จะเหมาะมากที่จะนำไปใช้กับทีมขายหรือพนักงานขาย โดยเฉพาะทีมที่ติดต่อกับลูกค้าเป็นประจำ และมีกิจกรรมที่ต้องทำกับลูกค้าอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งปิดการขาย เช่น โทรหา ส่งใบเสนอราคา ส่งข้อมูล ไปพบ ประชุม ทำเดโมหรือทดลองสินค้า พรีเซนต์ ทานข้าว เป็นต้น

เพราะว่า Pipedrive จะมี Activity view ที่คล้ายกับ Calendar view และเราสามารถจะใส่นัดหมายต่างๆลงไป รวมทั้งสามารถกำหนดการแจ้งเตือนผ่านอีเมล์หรือมือถือ

3. สามารถจะปรับแต่งได้ง่ายตามความต้องการของผู้ใช้งาน โดยที่ไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ด ดังนั้นผู้ใช้งานทั่วไปก็สามารถปรับแต่งเองได้ ตัวอย่างเช่น สามารถกำหนดขั้นตอนการขาย (sales stage) และสร้าง Pipeline เองสำหรับทีมขาย สามารถสร้างได้หลาย Pipeline และแต่ละอันก็มีความแตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น ทีม A ใช้ Pipeline A และ ทีม B ใช้ PipelineB เป็นต้น

หรือสามารถเพิ่มฟิลด์ (field) ลงไปในดีล องค์กร คนที่ติดต่อ ได้อย่างง่ายดาย โดยปกติแล้วมันจะมีค่าเริ่มต้นที่ให้เราใส่ข้อมูลลงไปในดีล องค์กร คนติดต่อ ตัวอย่างเช่น คนที่ติดต่อ ก็จะมีค่าเริ่มต้นที่ให้เราใส่ข้อมูลลงไป ไม่ว่าจะเป็น ชื่อ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ เราก็อาจจะเพิ่มฟิลด์ (field) ที่ต้องใส่เพิ่มเช่น แหล่งข้อมูล เป็นต้น

4. มีวิว (view) ให้ดูหลากหลายแบบ ซึ่งเราสามารถเลือกดูได้ตามความต้องการหรือการใช้งาน จะเรียกว่ามีครบจบในที่เดียวก็ว่าได้ เริ่มต้นจาก

4.1 Pipedrive view

ทำให้เห็นดีลต่างๆในแต่ละขั้นตอนการขาย (sales stage) ซึ่งจะทำให้เซลส์เห็นภาพชองดีลทั้งหมดทั้งจำนวนและมูลค่า และเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว เช่น รู้ได้ว่ามีดีลไหนที่อยู่ในขั้นตอนการต่อรองราคา

นอกจากนั้นแล้วเซลส์ยังคลิกดูแต่ละดีล เพื่อเข้าไปดูรายละเอียดของดีลได้ (detail view)

ลากและปล่อย (drag and drop) แต่ละดีลได้  ถือเป็นจุดเด่นของระบบ นั่นหมายถึงถ้าต้องการย้ายดีลจากขั้นตอนการขายหนึ่งไปขั้นตอนการขายอื่น ก็เพียงลากดีลนั้นไปปล่อยที่ขั้นตอนการขายใหม่ที่ต้องการ

Pipedrive view_v1

4.2 List view

เปรียบเสมือนสเปรดชีตวิว เซลส์ที่ชอบวิวแบบ Excel ก็สามารถจะเลือกดู List view ใน Pipedrive ได้

ข้อดีของวิวนี้คือดูเป็นระเบียบ และเราสามารถคลิกแต่ละหัวข้อ เพื่อให้มีการเรียงลำดับข้อมูลจากก่อนไปหลัง หลังไปก่อน น้อยไปมาก หรือมากไปน้อย

เซลส์ยังสามารถคลิกตรงรูปเกียร์ เพื่อที่จะเพิ่มหรือลดหัวข้อ ที่จะให้มีการแสดงข้อมูล

นอกจากนั้นแล้วเซลส์ยังคลิกดูแต่ละดีล เพื่อเข้าไปดูรายละเอียดของดีลได้ (detail view)

List view_v1

4.3 Detail view

เป็นวิวที่มีข้อมูลมากที่สุดสำหรับดีลๆหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น รายละเอียดของดีล คนติดต่อ องค์กรของคนติดต่อ กิจกรรมที่เซลล์ทำกับคนติดต่อ อีเมล์ที่รับส่งกันกับคนติดต่อ ผู้ติดตาม (followers) ระยะเวลาของดีลตั้งแต่สร้างขึ้นมา ระยะเวลาโดยเฉลี่ยของดีลที่ชนะถ้ามี

ดังนั้นเข้ามาที่ detail view จะได้ข้อมูลถือว่าครบจบที่เดียวเลยก็ว่าได้

detail view_v1

detail view 2_v1

detail view 3_v1

4.4 Forecast view

เป็นวิวที่มีประโยชน์มากสำหรับเซลล์ สามารถเห็นยอดขายที่เป็นไปได้ในแต่ละเดือนหรือไตรมาส รวมทั้งยอดขายที่มาจากดีลที่ชนะด้วย

ถ้าเราสังเกตุดูตัวเลขให้ดี ยอดขายที่ประมาณการจะมาจาก ตัวเลขของดีล * ค่าความน่าจะเป็นที่เราตั้งขึ้น (% probability) ดังนั้นตัวเลขเหล่านี้จึงน่าจะมีความเป็นไปได้ดีกว่า การที่เรานำตัวเลขของดีลมารวมกันในแต่ละเดือนหรือไตรมาส อย่างที่เรานิยมทำกันใน Excel

Forecast view_v1

4.5 Activity view

ไว้สำหรับดูนัดหมายของเซลส์ในแต่ละสัปดาห์  สามารถคลิกดูรายละเอียดของกิจกรรม หรือแก้ไขนัดหมายได้

ลากและปล่อย (drag and drop) แต่ละกิจกรรมหรือนัดหมายได้ แทนการคลิกและแก้ไข ในเรื่องวันและเวลา

activity view_v1

5. มีรีพอร์ทให้เลือกดูที่เป็นประโยชน์ได้หลากหลายแบบ

Pipedrive จะแบ่งรีพอร์ทเป็น 3 หมวดหมู่หลัก ซึ่งก็คือ

5.1 รีพอร์ทไว้สำหรับดูกิจกรรมของเซลส์ (Reports for Activity effort)

ดูตัวอย่างรีพอร์ทที่หัวข้อ KPIs for Sales Team Part I

5.2 รีพอร์ทไว้สำหรับดูดีลที่เซลส์สร้างขึ้น และดีลที่มีหรือเพื่มขึ้นในแต่ละขั้นตอนการขาย (Reports for Pipeline performance)

ดูตัวอย่างรีพอร์ทที่หัวข้อ KPIs for Sales Team Part II

5.3 รีพอร์ทไว้สำหรับดูผลงานของเซลส์ (Reports for Sales performance) ซึ่งก็คือดีลที่ชนะหรือแพ้

ดูตัวอย่างรีพอร์ทที่หัวข้อ KPIs for Sales Team Part III

6. มีแอพพลิเคชั่นให้ใช้บนมือถือ ซึ่งก็ใช้งานได้ง่าย ให้รายละเอียดที่ต้องการ และเป็นประโยชน์

ขอแนะนำว่าต้องลองใช้ แล้วจะรู้ว่า มันใช่เลย “Yes, this is what I am looking for”

7. ราคาประมาณเริ่มต้นอยู่ที่ 4,700 บาทต่อยูสเซอร์ต่อปี ยูสเซอร์ที่ใช้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นกลุ่มของพนักงานขาย

ติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ (081) 823 2988 หรือ email at sujit.c@uncsolutions.com

Comments are closed.

Affiliates

Partners

Archives