Chat with us, powered by LiveChat

November, 2018

Pipedrive | New Feature@Workflow Automation

Pipedrive ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ขึ้นมาคือ Workflow Automation ซึ่งมันจะช่วยให้พนักงานขายลดการทำงานที่ซ้ำๆลงได้ นั่นก็หมายถึงประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์ที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง หลักการของมันก็คือว่า เราสามารถสร้างกฎเกณฑ์ขึ้นมา อาทิเช่นถ้ามีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น ก็จะส่งผลให้มีอีกเหตุการณ์หนึ่งตามมาโดยอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น ถ้าเราได้เพิ่ม contact ลงไปใน Pipedrive ดีลก็จะถูกสร้างขึ้มมาโดยอัตโนมัติ หรือ ถ้าเราได้ปรับเปลี่ยนสถานะของดีลจาก Lead In เป็น Contact made ก็จะมีการส่งอีเมล์ไปหาลูกค้าโดยอัตโมมัติ เราควรสร้างอีเมล์ที่จะส่งเตรียมไว้ก่อน (template email) หรือ ถ้าเราสามารถปิดดีลได้ และเปลี่ยนสถานะดีลมาเป็น Won deal ก็จะมีการส่งอีเมล์ขอบคุณไปหาลูกค้าโดยอัตโนมัติ จากตัวอย่างด้านบนจะเป็นว่าเมื่อมีเหตุการณ์แรกเกิดขึ้น ซึ่งเราอาจเรียกมันว่า tricker event หลังจากนั้นก็จะมีผลลัพธ์ที่เป็นเหตุการณ์ต่อมาเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ ซึ่งก็สามารถจะเรียกมันว่า consequence action ดังนั้นพนักงานขายก็อาจจะสำรวจตัวเองดูว่ามีการทำงานไหนที่เกี่ยวเนื่องกันที่เราทำบน Pipedrive ซ้ำๆจนสามารถนำเอา Workflow Automation มาช่วยได้บ้าง เพื่อเราจะได้ลด repeated tasks เรามาลองดูวิธีการใช้งาน Pipedrive workflow automation ว่าทำอย่างไรจากภาพด้านล่างนี้ [...]

Part II: KPIs for Sales Team?

จากบทความที่แล้ว เราได้เรียนรู้จากรายงาน (Reports) ที่แสดงกิจกรรมของยูสเซอร์แต่ละคนในแต่ละเดือน เมื่อเราเลือก Pipeline และ ช่วงเวลาเป็น “Pipeline for Services” and “This Year” บทความนี้เรามาดูกันต่อ สำหรับรายงานของหัวข้อที่2 ซึ่งก็คือรายงานแสดงผลของดีลที่เปิดทั้งหมดและความเคลื่อนไหวของดีลต่างๆของเซลล์แต่ละคน และรายงานแสดงผลของดีลที่เปิดทั้งหมดและความเคลื่อนไหวของดีลต่างๆของเซลล์ทั้งหมดที่ใช้ Pipedrive โดยทั่วๆไปดีลแต่ละดีลจะเคลื่อนไหวไปตามขั้นตอนการขาย (sales stgae) ตามที่บริษัทได้กำหนดใน Pipeline เช่น เริ่มต้นจากการมีลีด (lead in) ติดต่อลูกค้า พิจารณาว่าสามารถจะเป็นลูกค้าได้ไหม (qualified prospect) การมองหาความต้องการของลูกค้า (need defied) เป็นต้น พนักงานขายควรที่จะมองหาลีดที่เป็นไปได้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และทำการติดต่อหรือทำกิจกรรมกับลีด และเปลี่ยนลีดนั้นให้เป็นลูกค้าของบริษัท ดังนั้นการที่ลีดมีความเคลื่อนไหวตามขั้นตอนการขาย (sales stage) และขึ้นไปอยู่ใน stage ที่ดีขึ้น นั่นก็หมายถึงโอกาสที่จะปิดการขายได้มากขึ้น (higher propbability) มันย่อมเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการทำงานของพนักงานขาย เรามาดูรูปภาพด้านล่างนี้เพื่อจะได้เห็นภาพอย่างง่ายสำหรับรายงานแสดงผลของดีล ภาพแรก เป็นรายงานแสดงผลของมูลค่าหรือจำนวนดีลที่สร้างขึ้นทั้งหมดใน Pipeline for Services [...]

Part I: KPIs for Sales Team?

อะไรที่บริษัทสามารถนำมาพิจารณาเป็นดรรชนี (index) ที่วัดการทำงานของพนักงานขายได้บ้าง พนักงานขายมักจะถูกวัดผลการทำงานจากยอดขาย โดยอาจวัดทุกเดือนหรือทุกไตรมาส นอกจากนั้นแล้วบริษัทยังมีการวัดการทำงานของเซลส์จากดรรชนี (index) อื่นๆอีกหรือไม่ อย่างเช่น กิจกรรมที่ทำกับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นโทรไปหา ส่งใบเสนอราคา ไปเยี่ยม ทำเดโม (do demo) ส่งข้อเสนอ (submit proposal) ไปทานข้าวกลางวัน หรือ จำนวนดีลหรือโอกาสที่เปิดใหม่ (open deals) แต่ละบริษัทก็จะมีวิธีการวัดการทำงานของเซลล์ที่แตกต่างกัน รวมทั้งการกระตุ้นการทำงานของพนักงานขาย และการแบ่งปันข้อมูลการขายระหว่างเซลส์ที่ไม่เหมือนกัน Pipedrive จะมีเครื่องมืออันหนึ่งที่ช่วยให้องค์กรเห็นความเคลื่อนไหวของกิจกรรมหรือดีลของเซลล์แต่ละคน โดยสามารถนำเสนอเป็นรายงาน (report) ได้ดังต่อไปนี้ 1. รายงานแสดงผลของกิจกรรมของเซลล์แต่ละคน หรือ รายงานแสดงผลของกิจกรรมของเซลล์ทั้งหมดที่ใช้ Pipedrive 2. รายงานแสดงผลของดีลที่เปิดทั้งหมดและความเคลื่อนไหวของดีลต่างๆของเซลล์แต่ละคน หรือ รายงานแสดงผลของดีลที่เปิดทั้งหมดและความเคลื่อนไหวของดีลต่างๆของเซลล์ทั้งหมดที่ใช้ Pipedrive สำหรับหัวข้อที่ 1 เราจะแสดงให้เห็นอย่างง่ายจากรูปภาพด้านล่างนี้ ภาพแรก เป็นรายงานแสดงผลของกิจกรรมที่ได้สร้างขึ้น โดยจะแสดงผลของยูสเซอร์ทั้งหมดที่ใส่ข้อมูลใน Pipeline for Services ในช่วงเวลาที่เลือกซึ่งก็คือปีนี้ โดยปกติแล้วยูสเซอร์ที่เป็นแอดมินของระบบจะสามารถดูรายงานแสดงผลของแต่ละคนได้จาก Tab Statistics ในขณะที่ยูสเซอร์ทั่วไปจะดูได้เพียงรายงานของตัวเองจาก [...]

Magic of using Web forms in Pipedrive

Pipedrive มีเครื่องมือหนึ่งที่เราหรือบริษัทสามารถนำมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คิอ Web forms     เราสามารถสร้างแบบฟอร์มออนไลน์จาก Pipedrive แล้วนำโค้ด (Code Snippet) หรือลิงค์ (Link) ไปใส่บนเวปไซด์ของบริษัท เพื่อให้ลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายของเราที่สนใจกรอกรายละเอียด แล้วกด submit หลังจากนั้นข้อมูลก็จะถูกส่งมาเก็บใน Pipedrive ในรูปแบบของดีล (Deals) ใน sales stage นั่นหมายถึงการลดขั้นตอนจากปกติเป็นเก็บข้อมูลลีดจากเวปไซด์ผ่าน forms แล้วนำข้อมูลลีดมาใส่ใน Pipedrive เป็น ข้อมูลลีดจากเวปไซด์ผ่าน forms ถูกนำมาเก็บที่ Pipedrive อัตโนมัติ ขั้นตอนการสร้าง Web forms ใน Pipedrive เป็นไปตามภาพและคำบรรยายด้านล่างนี้     1) เลือก Settings 2) เลือก Web forms 3) กดสร้าง ฟอร์ม (forms) 4) [...]

PIPEDRIVE | Organizations, Contacts, Deals | How to manage them?

เมื่อเราหรือบริษัทมีการใช้งาน PIpedrive สิ่งที่เราควรคำนึงถึงคือ จะมีข้อมูลอะไนบ้างที่เราจะใส่ลงไปใน Pipedrive ของเรา ลองมาดูรูปภาพด้านล่างนี้พร้อมคำอธิบาย เพื่อทำให้เราเข้าใจได้ง่ายขึ้น ข้อมูลที่จำเป็นและควรใส่ลงไปใน Pipedrive 1)  Organization พนักงานขายควรเริ่มต้นจากการใส่ข้อมูลของบริษัทลงไปก่อน โดยใส่ชื่อของบริษัท ที่อยู่ และเวปไซต์ 2)  Contact ต่อจากนั้น พนักงานขายก็มาใส่ contacts โดยใส่ชื่อของบุคคลที่เราติดต่อ เบอร์โทร อีเมล์ และทำการเชื่อมต่อ contacts ที่ใส่กับ organizations ที่ได้ใส่ไปก่อนหน้านี้ 3)  Deal หลังจากนั้นพนักงานขายถึงจะใส่ดีล (Deals) ซึ่งก็คือโครงการ (projects) ของลูกค้า หรือโอกาส (opportunities) ของกลุ่มเป้าหมาย (prospects) ต่อจากนั้น พนักงานขายก็ควรสร้างกิจกรรมต่างๆ (Activities) ที่จะทำกับลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมาย เช่น โทรไปหา ไปพบ ส่งเมล์ ทานอาหาร นำเสนอ (presentation) เป็นต้น ซึ่งระบบ Pipedrive จะทำการแจ้งเตือนกิจกรรมเหล่านี้ให้กับพนักงานขายผ่านทางอีเมล์ และมือถือ มันจะทำให้พนักงานขายไม่พลาดที่จะติดต่อกับลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมาย กิจกรรมทั้งหมดจะมีการบันทึกในระบบ [...]

PIPEDRIVE | Simple, Powerful, Leader Sales CRM

Pipedrive | Sales CRM & Pipeline Management Software  Website: https://www.pipedrive.com Pipedrive is sales CRM software that helps companies, teams, and individuals organize and manage contacts, activities, and information in a manner that inspires the development of good sales habits. By making client interactions consistent and measurable, Pipedrive helps salespeople stay on top of all their deals. [...]

Affiliates

Partners

Archives